สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ( Old Trafford )
สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ( Old Trafford )
วันนี้ทางเราได้นำเสนอความเป็นมาของสุดยอดสนามของทีมยักใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างในรอบศตวรรษที่ได้ก่อตั้งสนามขึ้นมา
ย้อนกลับไปกว่าหนึ่งศตวรรษที่แล้ว “แทร็ฟฟอร์ด ปาร์ค” ซึ่งในขณะนั้น มีสถานะเป็นเพียงแต่ผืนแผ่นดินว่างเปล่าบนนิคมอุตสาหกรรม แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค ถูกซื้อด้วยเงินปริมาณ 60,000 ปอนด์ รวมทั้งเอามาสร้างให้เปลี่ยนบ้านที่ใหม่ของสมาคม สนาม “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ที่ทุกๆวันนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลชั้นเลิศที่สุดในโลกของเมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ มีปริมาตรผู้ชมได้ มากถึงกว่า 80,000 คน แล้วก็นี่เป็นเรื่องราวทั้งปวงของ “โรงแสดงละครที่ความฝัน” หรือ “Theatre of Dream”
เมื่อครั้งที่ยุคยอดกลุ่มอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงใช้ชื่อเดิมว่า “นิวตัน ฮีธ” พวกเขายัง เป็น เพียงแค่ชมรมบอลเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ร่วมชิงชัย บอลลีกในปี 1892 และ ก็มีสนามเหย้าที่ เข้าขั้นห่วยแตกที่สุดอย่าง “นอร์ท โร้ด” ในมอนซอลล์ ซึ่งสนามมีภาวะอย่าง กับ ปลักโคลน และ ก็ห้องแต่งตัวก็อยู่
ไกลห่างออกไปกว่าครึ่งไมล์ที่ผับ ทรีคราวน์ส แต่ แม้ว่าจะได้ย้ายสนามจาก “นอร์ท โร้ด” มาสู่ “แบงค์ สตรีท” นั้น แต่ว่าทั้งคู่สนามก็มีภาวะไม่ได้ต่างอะไรกันมากสักเท่าไรนัก รวมทั้งยังถูกติชมกันว่าพื้นสนามนั้นตกต่ำมากมายตัวอย่างเช่นเดิม ด้วยเหตุฉะนี้ ประธานชมรม จอห์น เดวี่ส์ ก็เลยได้ตกลงใจย้ายห่างจากเมืองไปอีก 5-6 ไมล์ ตรงนั้นเป็น “แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค” บริเวณนอกเมือง แมนเชสเตอร์
ความเป็นมาของสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
“โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” เริ่มออกมาให้ได้ยินกันเป็นครั้งแรกในระหว่างฤดู 1909/10 โดยพื้นที่ซึ่งใช้สำหรับเพื่อการสร้างสนามนั้นซื้อโดยบริษัทแมนเชสเตอร์ บริวเวอปรี่ (จอห์น เฮนรี่ เดวี่ส์) แล้วก็ให้สมาคมเช่าต่ออีกครั้ง เดวี่ส์เองเป็นคนชำระเงินค่าก่อสร้างด้วยเงินปริมาณ 60,000 ปอนด์ ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 1908 ภายใต้อำนาจบังคับของอาร์ชิบัลด์ ลีทช์ นักออกแบบมีชื่อเสียง เมื่อย่างเข้าปี 1910 สมาพันธ์ก็ย้ายข้าวของเครื่องใช้จากสนามเดิมที่แบงค์สตรีทเข้ามาปักหลักตรงนี้แทน และ ก็สร้างให้เปลี่ยนบ้านที่ใหม่ของชมรม สนาม “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” มีความ จุผู้ชมได้มากถึง 80,000 คน
สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปี1950-1966
“โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” เริ่มเปิดประตูต้อนรับแฟนบอลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1910 แต่ก็เป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อทีมพ่ายให้ กับ ลิเวอร์พูล 4-3 ในช่วงนั้นแฟนบอลส่วนใหญ่ต้องยืนดูเกมการ แข่งขัน แต่ก็ถือเป็นความความสำเร็จ ของสนามแห่งใหม่ที่สามารถรองรับคนดูได้ถึง 80,000 คนในเกมดังกล่าว ถึงยังเป็นสังเวียนฟาดแข้งที่ให้ความสะดวกสบาย แฝงด้วยความหรูหราโดยไม่มีสนามแห่งใดในยุคเดียวกันจะเทียบเท่าได้ ไม่ว่าจะในเรื่อง เก้าอี้พับเก็บได้ มีห้องจิบน้ำชา และ คนคอยบริการชี้ทาง พาไปหาที่นั่ง พร้อมทั้งยังมีห้องเล่นเกม โรงยิม และ อ่างอาบน้ำขนาดยักษ์ สำหรับนักเตะอีกด้วย
หลังจากรองรับฝูงชนมากหน้าหลายตามาเป็นระยะเวลา 30 ปี “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ก็ห่างหายจากเกมลูกหนังอยู่เกือบ 1 ทศวรรษเต็มๆ รวมถึงฟุตบอลลีก ต้องหยุดชะงักหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939
จากนั้นในคืนวันที่ 11 มีนาคม ปี ค.ศ. 1941 “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ก็ต้องพังทลายลงหลังโดนกองทัพอากาศของเยอรมัน ทิ้งระเบิดใกล้ๆ กับ นิคมอุคสาหกรรม แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค ระเบิดหลายลูกตกลงที่สนาม”โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” อัฒจันทร์ เมน สแตนด์ ถูกทำลายย่อยยับ เช่น เดียว กับ ตัวพื้นสนามก็ได้รับความเสียหาย ไปด้วย
หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลอังกฤษ ได้มอบเงินให้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวน 22,278 ปอนด์ เพื่อบูรณะสนามขึ้นใหม่ ระหว่างนั้นเอง ทีมปีศาจแดงต้องย้ายไปเล่นที่ “เมน โร้ด” สนามของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นานถึง 4 ปี
แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ สนามใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อรองรับผู้ชมจำนวน 120,000 คน ให้ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่มีงบประมาณพอที่จะ ก่อสร้างได้ ซึ่งทำได้เพียงแค่สร้าง เมน สแตนด์ ขึ้นใหม่แทนที่ของเดิมที่ถูกทำลายเท่านั้น
ในวันที่ 24 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1949 ทีมปีศาจแดงได้กลับมายังถิ่นของพวกเขาอีกครั้ง ท่ามกลางฝูงชนกว่า 41,000 คน และสามารถเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ได้ในเกมนัดแรกของรอบ 10 ปีที่กลับมาเล่น ณ สนามแห่งนี้
สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปี 2018-2020
ในปัจจุบัน ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด มีสนามใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กับ ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 28 ล้านปอนด์ ยูฟ่า ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมเกมฟุตบอลของยุโรป เรียก “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดในอังกฤษ และ ใช้รองรับเกมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 96 ถึง 5 นัด แต่ด้วยความสำเร็จ
ในช่วง ทศวรรษที่ 90 จำนวนแฟนบอลที่ ต้องการเข้าชมเกมมีมากขึ้น ปลายฤดูกาล 1999/2000 อัฒจันทร์ฝั่ง อีสต์ สแตนด์ ได้ถูกปรับปรุงใหม่จนสามารถเพิ่มความจุผู้ชมเป็น 61,000 ที่นั่ง หลังจากนั้นต้นฤดูกาล 2000/01 อัฒจันทร์ฝั่ง
สเตรตฟอร์ด เอนด์ ก็ได้ถูกปรับปรุงใหม่ เช่น กันโดยเพิ่มที่นั่งเป็น 2 ชั้น จนกระทั่งปัจจุบันความจุของสนามสุทธิคือ 68,217 ที่นั่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสโมสรฟุตบอลทั้งหมดในเกาะอังกฤษ
แม้จะครองสถิติเป็นสนามที่มีความจุใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษในปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังมี แผนการขยายความจุผู้ชมของสนาม “โอล์ด แทรฟฟอร์ด” ในอนาคตให้เป็น 90,000 ที่นั่ง ที่มุมสนามทั้ง 2 มุม ของอัฒจันทร์ฝั่ง
นอร์ท สแตนด์ ต่อกัน กับ สเตรตฟอร์ด เอนด์ และ อีสต์ สแตนด์ โดยที่อัฒจันทร์ฝั่ง เซาธ์ สแตนด์ แต่การขยายความจุนั้นต้องถือว่าเป็นไปได้ยากเพราะอยู่ใกล้ กับ ทางรถไฟ ซึ่ง เคยมีผู้เสนอให้ขยาย โดย สร้างอัฒจันทร์ชั้นที่ 3 คร่อมทางรถไฟ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมสมัยใหม่ และ มีค่าใช่จ่ายที่สูงมาก
เครดิตโดย :: ข่าวกีฬาออนไลน์
อ่านข่าวเพิ่มเติม :: line@