ประวัตินักเตะ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนจะมาเป็นนักเตะชั้นยอด!
ประวัตินักเตะ กองหน้าทีมชาติอุรุวัย หลุยส์ ซัวเรส คือสุดหนึ่งผู้เล่นกองหน้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ซัวเรสโด่งดังเป็นพลุแตกกับสโมสรลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่า นอกจากชื่อเสียงด้านฝีเท้า กองหน้าชาวอุรุวัยยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อเสียงด้านลบเช่นกัน หลังแหตุการกัดไหล่ จอนโจ้ คิเอลลินี่ ในศึกฟุตบอลโลกปี 2014 ระหว่างทีมชาติอิตาลีกับอุรุวัย อย่างไรก็ตามซัวเรสยังคงเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก และเป็นผู้เล่นที่มีสถิตทำประตูสูงสุดของยุโรป สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวลีกได้ถึง 2 ครั้ง พบกับเรื่องราวของ กองหน้าที่เติบโตมาจากครอบครัวยากจน สู่แข้งระดับโลก
วัยเด็กซัวเรส
ซัวเรส เกิดวันที่ 24 1987 เกิดในเมืองซับโต้ ประเทศอุรุกวัย ครอบครัวของนักเตะชาวอุรุกวัยมีฐานะครอบครัวที่สุดแสนจะยากจน พ่อของเขาทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังได้ ปล่อยให้ซัวเรสอยู่กับพร้อมพี่น้องร่วม 7 ชีวิต ในสลัมเล็ก ๆ ย่านซันโต้ อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญของนักเตะชาวอุรุกวัยเปิดขึ้นหลังจากแต่งงาน และดูเหมือนว่าชะตาชีวิตของซัวเรสจะเปลี่ยนไปในแง่บวกทันที ปัจจุบันเขาคือนักฟุตบอลอาชีพที่มีทรัพย์สินมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ราว ๆ 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ซัวเรสเกิดในครอบครัวยากจน พ่อของเขามีอาชีพยกกระเป๋า เขามีพี่น้องร่วมกัน 7 คน เปาโล ซัวเรสพี่ชายคนโตของซัวเรสเป็นนักฟุตบอลอาชีพเล่นให้กับสโมสรลีกกัวเตมาลา วัยเด็กของพวกเขาค่อนข้างยาก ซัวเรสไม่มีแม้กระทั่งรองเท้าฟุตบอล แต่เขาก็ยังสามารถเตะฟุตบอลข้างถนนได้สบาย ๆ
พรสวรรค์เริ่มฉายแววตอน 9 ขวบ
ก่อนที่หลุยส์ ซัวเรสจะพบกับ วิลสัน เปเรซ หนึ่งในทีมแมวมองจากสโมสรนาซิอองนาล เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นที่ศูนย์ฝึกอูร์เรตา สโมสรฟุตบอลย่าน มอนเตวิเดโอ ทีมฟุตบอลแรกที่แม่ของซัวเรสแนะนำให้รู้จัก ปรากฎว่าเกมแรกของซัวเรสวัย 9 ขวบ กดแฮททริคตั้งแต่เกมแรก หลังจากนั้นซัวเรสก็ได้เซ็นสัญญากับสโมสร อูร์เรตาในที่สุด ก่อนที่เขาจะพบกับแมวมองจากสโมสรดังอุรุกวัยเมื่ออายุ 12 ขวบ
เกือบอดเป็นนักฟุตบอล
ซัวเรสในวัย 12 ขวบถึงแม้จะได้เป็นนักเตะเยาวชนของนาซิอองนาลก็ตาม แตความยากจนภายในครอบครัว ส่งผลให้ซัวเรสต้องทำมาหากินอื่น ๆ ซึ่งในช่วงแรกดูเหมือนครอบครัวของเขาอยากให้ซัวเรสเรียนหนังสือ เพื่อโอกาสในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าซัวเรสอยากเล่นฟุตบอล เนื่องจากเขาเรียนหนังสือไม่เก่ง เด็กหนุ่มอายุเพียงน้อยนิดกับต้องแบกรับแรกกดดันมากมาย ส่งผลให้เขากลายเป็นเด็กติดสุราอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่เขาจจะพบกับว่าที่ภรรยา และนั่นคือจุดเปลี่ยน
จุดเปลี่ยนสู่ซัวเรสในปัจจุบัน
โซเฟีย บาลบี้ คือ พลังบวกของซัวเรส ทั้งคู่มีโอกาสได้พบกันครั้งแรกตอนอายุ 15 นับตั้งแต่ซัวเรสรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปในทางบวก ซัวเรสกลับมาโฟกัสความฝันตัวเองอีกครั้ง กับนาซิอองนาลจนติดทีมชาติอุรุกวัย u 20 และนั่นคือใบเบิกทางสู่ประตูยุโรปสู่นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก
ย้อนรอยวีรกรรมซัวเรซ
เหตุการที่ 1 สมัยการค้าแข้งอยู่กับ อาแจ็กซ์ ซัวเรซ ก่อเหตุกัดคอ ออตแมน บัคคอล นักเตะของพีเอสวีฯ ระหว่างที่ลงเล่นทั้งสองทีมกำลังชุลมุนวุ่นวายกันอยู่กลางสนาม ขณะที่เกมยังเสมอกันอยู่ 0-0 โดยหลังเกิดเหตุ อาแจ๊กซ์ ลงโทษเขา ห้ามลงสนาม 2 นัด พร้อมกับปรับเงิน ก่อนที่พรีเมียร์ดัตช์จะเพิ่มโทษแบนของเขาเป็น 7 เกมในเวลาต่อมา ขณะที่หนังสือพิมท้องถิ่นอย่าง เด เทเลกราฟ ก็ถึงกับเรียก ซัวเรซ ว่า แคนนิบัลของ อาแจ๊กซ์ หรือ มนุษย์กินคนแห่งอาแจ๊ก
เหตุการที่ 2 ซัวเรซ กลายเป็นประเด็นของวงการลูกหนังโลกอีกครั้ง หลังจากโดนกล่าวหาว่า พูดจาเหยียดสีผิวใส่ ปาทริซ เอวรา ในเกม เอฟเอคัพ ระหว่างเกมที่ ลิเวอร์พูล พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งหลังจากนั้นสมาคมฟุตบอล อังกฤษ ตัดสินว่าเขามีความผิดจริง และได้ลงโทษห้ามเขาลงสนาม 8 นัด พร้อมกับปรับเงิน 4 หมื่นปอนด์ (ราว 2 ล้านบาท)
เหตุการที่ 3 ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีนักของ ซัวเรซ ก็เลยตกเป็นเป้าหมายโจมตีของเหล่าแฟนบอลทีมอื่นๆขณะที่ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าก็คงสุดจะทนเลยชูนิ้วกลางให้แฟนบอลกองเชียร์ ฟูแล่ม ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย ฟูแล่ม 0-1 โดยจังหวะที่ ซัวเรซ ชูนิ้วกลางมีช่างภาพสามารถจับภาพเอาไว้ได้ซึ่งในเวลาต่อมา เอฟเอ ก็ได้สั่งโทษแบนเขา 1 นัด จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และโดนปรับเงินอีก 20,000 ปอนด์ (ราว 1 ล้านบาท) อีกด้วย
เหตุการที่ 4 เหตุการนี้เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เสมอกับ สเปอร์ส 0-0 โดยมีจังหวะการเข้าบอลรุนแรงของ ซัวเรซ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา แต่ภาพที่ออกมาค่อนข้างรุนแรง ราวกับแม่ไม้มวยไทย เมื่อเจ้าตัววางแข้งขวาเน้นๆ อัดเข้าไปที่ชายโครงของ ปาร์คเกอร์ จนนักเตะรายนี้ถึงกับทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้นสนาม นอนชักดิ้นชักงอก่อนที่ ซัวเรซ จะโดนผู้ตัดสินควักใบเหลืองเพื่อเป็นการตักเตือน เว็บข่าวกีฬา
เหตุการที่ 5 ชกบอลเข้าประตู เพราะคดีของ ซัวเรซ เกี่ยวกับการใช้มือมีมาให้เห็นเรื่อยๆ อันนี้ก็อีกกรณีที่ชัดเจน ว่าเจ้าตัวจงใจใช้มือทำบอลเข้าประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านต่อ วีแกน 1-2 แต่คราวนี้ยังดีหน่อยที่ผู้ตัดสินตาไว เป่าเป็นลูกฟาวล์ พร้อมกับควักใบเหลืองในท้ายที่สุด
อ่านข่าวสารฟุตบอล : ข่าวกีฬาออนไลน์
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวกีฬา